ขอคำปรึกษาเบื้องต้น ฟรี! แอดไลน์ @brandnista

ไขความลับ! Average Basket Size คืออะไร? พร้อม 3 เทคนิคง่ายๆ ที่ช่วยเพิ่มยอดขายให้พุ่งทะยาน!
ในโลกของการขายของออนไลน์ที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบัน "Average Basket Size" หรือ "มูลค่าการสั่งซื้อสินค้าต่อคำสั่งซื้อ" กลายเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญที่ช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เข้าใจพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า และนำไปปรับปรุงกลยุทธ์เพื่อเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าคุณกำลังมองหาวิธีเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจออนไลน์ของคุณ บทความนี้จะช่วยไขข้อสงสัยเกี่ยวกับ Average Basket Size พร้อมแนะนำ 3 เทคนิคเด็ดที่คุณสามารถเริ่มต้นได้ทันที!
Average Basket Size คืออะไร?
Average Basket Size หมายถึง มูลค่าเฉลี่ยของสินค้าที่ลูกค้าสั่งซื้อต่อคำสั่งซื้อ หรือพูดง่ายๆ คือจำนวนเงินที่ลูกค้าใช้จ่ายต่อครั้งนั่นเอง โดยการคำนวณสามารถทำได้ด้วยสูตรง่ายๆ:
Average Basket Size = รายได้ทั้งหมด ÷ จำนวนคำสั่งซื้อทั้งหมด
ตัวเลขนี้มีความสำคัญอย่างมาก เพราะมันช่วยให้คุณทราบว่าลูกค้าใช้เงินกับร้านค้าของคุณมากน้อยแค่ไหน ซึ่งยิ่งตัวเลขนี้สูง ยิ่งหมายความว่าลูกค้าซื้อสินค้าหลายชิ้นต่อคำสั่งซื้อมากขึ้น หรือเลือกสินค้าที่มีราคาสูงขึ้น
3 เทคนิคง่ายๆ เพื่อเพิ่ม Average Basket Size ให้พุ่งทะยาน
1. เสนอโปรโมชั่น "ซื้อคู่คุ้มกว่า" (Bundle Deals)
การขายสินค้าเป็นชุดหรือจัดโปรฯ แบบ "ซื้อ 2 ชิ้น ลด 20%" เป็นวิธีที่ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าเพิ่มสินค้าในตะกร้า ยิ่งถ้าคุณจัดชุดสินค้าที่ลูกค้ามักซื้อพร้อมกัน เช่น เครื่องสำอาง + คลีนซิ่ง หรือน้ำหอม + โลชั่น ก็ยิ่งดึงดูดใจได้ง่ายขึ้น เทคนิคนี้ไม่เพียงเพิ่มมูลค่าต่อคำสั่งซื้อ แต่ยังช่วยระบายสต็อกสินค้าได้อีกด้วย
2. ใช้กลยุทธ์การ Upsell และ Cross-sell
Upsell: เสนอสินค้าที่มีราคาสูงกว่าหรือเวอร์ชันที่ดีกว่า เช่น แนะนำให้ลูกค้าอัปเกรดจากแก้วน้ำธรรมดาเป็นแก้วน้ำที่เก็บความเย็นได้นานขึ้น พร้อมเสนอส่วนลดเล็กน้อยเพื่อจูงใจ
Cross-sell: แนะนำสินค้าเสริมที่เกี่ยวข้อง เช่น เมื่อลูกค้าซื้อโทรศัพท์มือถือ อาจแนะนำเคสหรือฟิล์มกันรอยในหน้าตะกร้าสินค้า
การใช้กลยุทธ์นี้ช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าหยิบสินค้ามากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเสนอในจังหวะที่เหมาะสม เช่น ตอนที่ลูกค้ากำลังจะชำระเงิน
3. ตั้งค่าจัดส่งฟรีเมื่อมียอดสั่งซื้อขั้นต่ำ
ลูกค้าส่วนใหญ่มักรู้สึกว่าการได้จัดส่งฟรีคือ "กำไร" ดังนั้นการกำหนดยอดสั่งซื้อขั้นต่ำเพื่อรับสิทธิ์จัดส่งฟรี เช่น ซื้อครบ 500 บาท ส่งฟรีทันที จะกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อสินค้าเพิ่มเพื่อให้ได้สิทธิ์ดังกล่าว เทคนิคนี้เหมาะสำหรับร้านค้าที่มีสินค้าหลายประเภทและมีราคาต่อชิ้นไม่สูงมาก
เคล็ดลับเพิ่มเติม
สร้างประสบการณ์การซื้อที่ราบรื่น: ทำให้การเลือกสินค้าและการชำระเงินง่ายและรวดเร็วที่สุด
ใช้รีวิวและคำแนะนำ: รีวิวจากลูกค้าคนอื่นสามารถช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้
ปรับแต่งข้อเสนอให้เหมาะกับลูกค้า: ใช้ข้อมูลการซื้อของลูกค้ามาวิเคราะห์เพื่อส่งโปรโมชันที่ตรงกับความต้องการ
อย่ารอช้า!
ลองนำ 3 เทคนิคที่เราแนะนำไปปรับใช้กับร้านค้าของคุณ และอย่าลืมแชร์บทความนี้ให้กับเพื่อนพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์คนอื่นๆ เพื่อช่วยกันเพิ่มยอดขายในปี 2025!
